บทนำ
ปัจจุบันเวบไซต์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมายบนโลกไซเบอร์ ซึ่งเป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูลสำหรับนักท่องอินเตอร์เน็ตทั่วโลก การเปิดเวบไซต์ต่างเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ และจะเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ ในอนาคต เป็นผลทำให้อาชญากรรมบนโลกไซเบอร์มากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งอันดับต้นๆ คือการนำข้อมูลต่างๆ บนเวบไซต์ไปเผยแพร่ต่อโดยไม่ได้รับอนุญาติโดยเฉพาะรูปบนเวบไซต์ต่างๆ ที่คนมักจะทำสำเนาของภาพมาใส่บนเครื่องคอมพิวเตอร์ตนเองจึงเป็นสาเหตุของบทความนี้ครับ ผมจะแจกแจงวิธีป้องกัน 10 วิธีด้วยกันครับ
สิ่งที่จำเป็นจะต้องรู้ก่อนอ่านบทความนี้
- ภาษา HTML เล็กน้อย
- เข้าใจตัวย่อที่ผมเขียนบางอันเช่น CSS
การป้องกันรูปภาพ 10 วิธี
- การใช้ "ลายน้ำ" (Watermarking)
วิธีการนี้เป็นวิธีต้นๆ ที่เวบมาสเตอร์แรกๆ ใช้กันครับ โดยการใส่ลายน้ำไว้บนรูปภาพ จะเป็นรูปจางๆ แล้วเอามาใส่ไว้บนรูป ทำให้พอเห็นว่าเป็นรูปที่มีลิขสิทธิ์อยู่ตัวอย่าง
ที่มาของรูป : http://www.naturefocused.com/articles/image-protection.html - การใช้รูปภาพความละเอียดต่ำ (Low Resolution Images)
วิธีการนี้ก็เป็นวิธีการต่อมาของเวบมาสเตอร์ อีกเช่นกันครับ โดยการใช้ภาพความละเอียดต่ำ พอเอามาขยายภาพเป็นภาพใหญ่ๆ ภาพก็จะแตกดูไม่รู้เรื่องครับ (คงไม่ต้องยกตัวอย่างให้ดูมั้งครับ) - การใช้จาวาสคริปต์ด้วยโรลโอเวอร์ (Using Javascript with roll-over)
วิธีการนี้จะต้องใช้ "จาวาาสคริปต์" (Javascript) ในการป้องกันรูปภาพครับ โดยส่วนใหญ่คนที่จะก๊อปรูปบนเวบจะต้องเอาเมาส์ไปชี้ที่รูปแล้วคลิ๊กขวา ทีนี้เราก็ตัดปัญหา พอเค้าเอาเมาส์ไปชี้ก็ให้ใช้ roll-over เพื่อเปลี่ยนภาพครับให้กลายเป็นภาพ ซึ่งวิธีนี้ สามารถนำไปประยุกต์กับ 2 วิธีข้างต้นได้ครับ โดยอาจจะใส่ภาพที่มีลายน้ำลงไปแทนภาพปกติ หรือ ภาพความละเอียดต่ำก็ได้ครับ - การป้องกันไม่ให้คลิ๊กขวา (Disabling right-click)
ขนาดใช้ ภาพความละเอียดต่ำหรือลายน้ำ มันก็ยังเอาไปใช้อีกก็ใช้วิธีนี้ได้ครับโดยการไม่ให้กดคลิ๊กขวาซะเลย โดยวิธีนี้ก็ต้องใช้ "จาวาสคริปต์" (Javascript) อีกเช่นกันครับ - ป้องกันไม่ให้ดาวน์โหลดภาพโดยใช้ภาพพื้นหลังบนตาราง (table), div, span
โดยปกติเวลาเราใส่ภาพลงบนเวบเราจะใช้ <img src="url ของภาพ"> ครับ โดยวิธีนี้เราใช้ <table></table>, <div></div>, <span></span> เข้ามาช่วยเราครับ โดยเราจะต้องใช้ CSS เข้ามาช่วยใน HTML ของเราครับ
ตัวอย่าง<img src="../myimage.jpg">
ให้เปลี่ยนเป็น
<table border="0">
<tr>
<td style="background-image: url(../myimage.jpg);"></td>
</tr>
</table> - ซ่อนที่อยู่ของภาพ (Hiding image path)
จากวิธีที่กล่าวมา 5 วิธีสำหรับคนที่แทบจะไม่รู้เรื่อง ภาษา HTML/CSS ครับ (แต่ไม่ได้หมายถึงผู้จัดทำเวบหรือเวบมาสเตอร์นะครับ) ปกติเค้าจะคลิ๊กขวาเพื่อเซฟรูปกันแต่วิธีนี้สำหรับผู้ที่มีความรู้ HTML/CSS มาบ้างครับ โดยการเปลี่ยนที่อยู่ของรูปภาพเราให้เป็นที่อยู่ที่อ่านไม่ออกตัวอย่าง
ที่อยู่ปกติ
/dir/yourimage.jpgที่อยู่ที่แปลงเป็นแบบที่อ่านไม่ออก
/%64%69%72/%79%6f%75%72%69%6d%61%67%65%2e%6a%70%67 - ป้องกันการลักลอบใช้ ลิงค์ร้อน (Hotlink) ตรงเข้ามายังที่อยู่ภาพโดยตรง (Hotlink Prevention)
วิธีนี้สำหรับผู้ที่เช่าโฮสเป็น Linux ครับ หรือ Windows ที่ใช้ Apache หรือ IIS ก็ได้แต่ต้องติดตั้ง "URL Rewrite" ด้วยครับ
โดยวิธีการก็คือ จากผู้ที่ต้องการขโมยรูป เค้าใช้ ลิงค์ http://www.mydomain.com/img/myimage.jpg เข้ามาโหลดภาพเราไปตรงๆครับ (เรียกว่า Hotlink อ่ะครับ)ตัวอย่าง
สำหรับ Linux
ให้สร้างไฟล์ .htaccess ในโฟลเดอร์ของรูปภาพที่เราเก็บไว้
แล้วเนื้อหาข้างในใส่ข้างล่างลงไปครับRewriteEngine On
RewriteCond %{HTTP_REFERER} !^$
RewriteCond %{HTTP_REFERER} !^http://(www\.)?mydomainname\.com [NC]
RewriteRule \.(jpe?g|gif|bmp|png)$ – [F] - การป้องการจาก Search Engine อย่าง Google
ถึงแม้เราจะกันจากการใช้ Hotlink แล้วก็ตาม บางทีอาจจะยังกันได้ไม่หมดเนื่องจากพวก บอท จาก Google มาทำ index ของเวบเราแล้วก็จะทำ สำเนาเพวกรูปจากเวบเราไว้ด้วยเราก็ต้องสั่งให้ บอท ไม่นำรูปของเราไปทำสำเนาครับโดยการใส่ tag เพิ่มใน <head></head> ของหน้าเวบไซต์ของเราครับ เพื่อเป็นการบอกบอท ให้ไม่ต้องทำ index สำหรับ image เราครับ<meta name="robots" content="noimageindex"></meta>
- การเข้ารหัส Source Code ของ HTML (Encryption)
หากมันยังกันไม่ได้อีกล่ะครับ ก็เข้ารหัสตัว source ของหน้าเวบเราซะเลยครับ โดยปกติถ้าเราคลิ๊กขวา ที่หน้าเวบไซต์ แล้วเลือก View Source เราจะสามารถเห็น ลิงค์ ที่เชื่อมโยงไปยังรูปต่างๆ และเวบไซต์ต่างๆ ครับ แล้วจะเป็นภาษาที่อ่านออกครับ เราจะทำการเข้ารหัสไว้เลยครับ ให้ โค๊ดนั้นอ่านไม่ออก ซึ่งวิธีการนี้ก็โดยการใช้ โปรแกรมเพื่อช่วยเข้ารหัส หรือลองค้นหาจาก Search Engine ทั่วไปดูครับ มันจะบริการออนไลน์ ให้เราพิมพ์ code เราลงไปและเค้าจะเข้ารหัสให้เราครับ
ตัวอย่าง
โค๊ดปกติ<h2><a name="watermarking"></a>Watermarking</h2>
<p>Both visible and invisible watermarking involve "
stamping" your image in such a way that it can be
identified as your image. Using a combination of the two is
a very good way to make sure everyone realizes that you own
the rights to your images.</p>หลังจากการเข้ารหัส
<script>
<!–
document.write(unescape("%3Ch2%3E%3Ca%20name%3D%22
watermarking%22%3E%3C/a%3EWatermarking%3C/h2%3E%0D
%0A%20%3Cp%3EBoth%20visible%20and%20invisible%20
watermarking%20involve%20%26quot%3Bstamping%26quot%
3B%0D%0A%20your%20image%20in%20such%20a%20way%20that
%20it%20can%20be%20identified%20as%20your%20image.
%20Using%20a%20%0D%0A%20combination%20of%20the%20
two%20is%20a%20 very%20good%20way%20to%20make%20
sure%20everyone%20realizes%20that%20%0D%0A%20you%
20own%20the%20rights%20to%20your%20images.%3C/p%3E"));
//–>
</script> - การขึ้นทะเบียนรูปภาพให้ถูกต้องตามกฏหมาย (Copyright Images)
วิธีนี้เป็นหนทางสุดท้ายแเล้วหล่ะครับถ้ามันยังลักลอบสามารถขโมยรูปจากบนหน้าเวบไซต์ได้อีกใช้วิธีนี้เลยครับโดยการขึ้นทะเบียนกับ United States Library of Congress หรือ องค์กรที่เกี่ยวข้องครับ หากเราขึ้นทะเบียนรูปของเราไว้แล้ว เราสามารถที่จะใช้กระบวนการทางกฏหมายกับผู้ที่ลักลอบนำภาพของเราไปเผยแพร่, แก้ไข, หรือ ดัดแปลง ซึ่งกฏหมายนี้จะครอบคลุมทั่วโลกครับ
อ้างอิงจาก